
ทำความรู้จักวิธีการซื้อ Bitcoin ในตลาด Spot
Spot ถือเป็นตลาดพื้นฐานสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลโดยที่ยังมีความเป็นเจ้าของจนกว่าจะมีการขายหรือโอนออกไปจาก Wallet บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับวิธีการ ซื้อ bitcoin ผ่านทางตลาด Spot ซึ่งเหมาะสมกับผู้เป็นมือใหม่ที่จะเรียนรู้
ตลาด Spot คืออะไร?
Spot คือตลาดที่ผู้ซื้อและผู้ขายสกุลเงินดิจิทัลสามารถแลกเปลี่ยนกันโดยได้รับสินค้าที่ส่งมอบเป็นสกุลเงินดิจิทัลจริงๆเข้ามาอยู่ใน Wallet ของแต่ละฝ่าย ซึ่งต่างจากตลาด Futures ซึ่งจะไม่มีการส่งมอบ bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลจริงๆแต่เป็นเพียงการซื้อขายสัญญาเท่านั้นและยังมีวันหมดอายุ
แต่การซื้อขายในตลาด Spot ผู้ซื้อและผู้ขายจะได้เป็นเจ้าของเหรียญนั้นๆจริงตัวอย่างเช่นเมื่อเราทำการ ซื้อ bitcoin เสร็จสิ้นเราก็จะได้ bitcoin เข้ามาอยู่ใน Wallet ของเราจากนั้นจะเก็บยาวหรือขายทำกำไรช่วงสั้นๆก็แล้วแต่
แม้ว่าตลาด Futures จะมีการเติบโตในระดับสูงในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Binance แต่ตลาด Spot ก็ยังคงมีความสำคัญเช่นเดิมเพราะยังมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการถือสกุลเงินดิจิทัลเก็บไว้ในระยะยาว
วิธีการซื้อขายในตลาด Spot
ภายในแพลตฟอร์มของ Binance ได้ออกแบบวิธีการ ซื้อ bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆไว้ด้วยกัน 4 แบบแล้วแต่ความต้องการของนักลงทุน โดยแบ่งได้ดังนี้
Market
คำว่า Market แปลว่าตลาด หมายความว่าถ้าเรากำลังจับตาสกุลเงินดิจิทัลตัวใดตัวหนึ่งอยู่แล้วมีความต้องการจะซื้อขายในราคานั้นทันที ก็สามาถเลือกวิธีซื้อขายแบบ Market ได้เลย
จากนั้นให้เราไปคลิ๊กที่ Amount กรอกจำนวนสกุลเงินดิจิทัลที่เราต้องการซื้อลงไป เช่นต้องการ ซื้อ bitcoin ที่ 1 BTC แพลตฟอร์มจะขึ้นจำนวนเงินที่เราต้องใช้ขึ้นมาทันที หรืออาจจะเลือกซื้อตามสัดส่วนของเงินในพอร์ตที่เรามีอยู่ก็ได้โดยมีตั้งแต่ 25% 50% 75% หรือซื้อทั้งหมด 100%
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วก็สามารถกดปุ่ม Buy ทางแพลตฟอร์มจะทำการเข้าซื้อเหรียญตามจำนวนที่เราต้องการและมูลค่าที่ได้รับจะไปปรากฎอยู่ในเมนู Wallet แทน
Limit
Limit ก็คือการตั้งคำสั่งซื้อขายไว้ล่วงหน้า เราอาจจะวิเคราะห์แล้วว่าราคาสกุลเงินดิจิทัลที่หมายปองในเวลานั้นยังไม่ใช่ราคาที่เหมาะสม เราก็สามารถตั้งคำสั่งเอาไว้ ทาง Binance จะเป็นผู้จับคู่ราคาให้เอง
วิธีการนี้อาจจะซื้อไม่ได้ทันทีและอาจจะได้จำนวนที่ไม่ครบตามต้องการแต่อาจจะได้ราคาที่ดีกว่าราคาตลาดในเวลานั้น
วิธีการนี้เหมาะสมกับผู้ที่ไม่มีเวลาเฝ้าติดตามตลาดด้วยตัวเองแต่ไม่ต้องการที่จะพลาดโอกาสในการลงทุนก็สามารถใช้วิธีตั้งราคาซื้อขายล่วงหน้าไว้ได้
Stop Limit
Stop Limit ก็คือการตั้งราคาที่เราต้องการจะซื้อหรือขายไว้ล่วงหน้าสำหรับการตั้งซื้อ เราสามารถตั้งราคาได้ทั้งในกรณีที่ต้องการให้ราคาย่อตัวลงมาในระดับที่เราต้องการหรือกรณีที่ให้ราคาปรับตัวขึ้นจนถึงระดับที่เราต้องการซื้อ
เช่น ราคาสกุลเงินดิจิทัล A ตอนนี้อยู่ที่ 10 ดอลลาร์ แต่มองว่าราคาเหมาะสมคือ 9 ดอลลาร์ เราสามารถตั้ง Stop Limit ให้ราคาย่อตัวลงมาถึงระดับ 9 ดอลลาร์ แล้วถึงจะเกิดคำสั่งซื้อหรือมองว่าราคาเหมาะสมที่จะซื้อคือ 11 ดอลลาร์ แต่ราคาตลาดอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ เราก็สามารถตั้งให้ส่งคำสั่งซื้อเมื่อราคาเพิ่มขึ้นมาที่ 11 ดอลลาร์ ได้เช่นกัน
สำหรับการตั้งขายใช้ในกรณีที่เราต้องการจะขายในราคาที่มองแล้วว่าทำกำไรได้ในระดับที่เหมาะสม เช่น เราซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลไว้กับตัวที่ราคา 10 ดอลลาร์ และตั้งใจจะทำกำไรให้ได้ 5% ก็สามารถตั้งคำสั่ง Stop Order ไว้ที่ราคา 15 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เราสามารถตั้งขายไว้ที่ราคาต่ำกว่าราคาที่เราซื้อไว้ก็ได้ ในกรณีที่ตลาดเป็นขาลง เราสามารถตั้งให้เกิดการตัดขาดทุนไว้ได้เพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น เราซื้อไว้ที่ 10 ดอลลาร์ และเรามองว่าตลาดอาจจะเป็นขาลง เราสามารถตั้งขายแบบ Limit Order ไว้ที่ 9 ดอลลาร์ ก็ได้
OCO
OCO เป็นวิธีการซื้อขายที่เป็นแบบเฉพาะของ Binance โดยเป็นการรวมคำสั่งแบบ Limit และ Stop เข้าด้วยกัน โดยสามารถตั้งคำสั่งทั้งสองแบบได้ในเวลาเดียวกัน สามารถใช้ในกรณีที่ต้องการตั้งคำสั่งซื้อไว้ล่วงหน้าทั้งในสถานการณ์ที่ราคามีการย่อตัวลงหรือราคาทะลุแนวต้านขึ้นไป ไม่ว่าจะเกิดในสถานการณ์ใดเราก็จะสามารถซื้อสกุลเงินดิจิทัลนั้นๆได้ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการลงทุน
Binance ได้พัฒนารูปแบบการซื้อขายในตลาด Spot ออกมาเพื่อรองรับทุกความต้องการของนักลงทุนสามารถเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลได้ตามความต้องการไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไรก็ตาม
แหล่งที่มา/ต้นฉบับ :
แสดงความคิดเห็น