
3 เคล็ดลับในการซื้อขาย Leveraged Token ในตลาดที่เป็นเทรนด์
Leveraged Token ทำให้คุณสามารถเข้าถึงสินทรัพย์คริปโตได้ เช่นเดียวกับตราสารอนุพันธ์แบบดั้งเดิม ตามที่สังเกตได้จากชื่อ โทเค็นนี้ใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มหรือลดการเข้าถึง (exposure) ขึ้นกับทิศทางของตลาด ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขาย Leveraged Token โปรดจำไว้ว่าโทเค็นนี้อาจเป็นดาบสองคมได้
หากคุณยังใหม่กับการใช้ Binance Leveraged Token คุณควรทำความคุ้นเคยกับข้อมูลพื้นฐานและเรียนรู้วิธีการทำงานของตราสารอันเป็นนวัตกรรมนี้ก่อน
อ่าน: คำแนะนำที่สำคัญสำหรับคุณเกี่ยวกับ Binance Leveraged Token
หากคุณได้อ่านภาพรวมเกี่ยวกับ Leveraged Token ของ Binance ไปแล้ว คุณน่าจะเข้าใจว่าเหตุใด Leveraged Token จึงไม่ใช่การลงทุนระยะยาว แต่โทเค็นเหล่านี้ทำงานได้ดีในการหาประโยชน์จากแนวโน้มตลาดระยะสั้น
ตอนนี้คำถามคือ คุณจะเทรดแนวโน้มระยะสั้นได้อย่างไร และวิธีที่ดีที่สุดคืออะไร คำตอบที่ชัดเจนคือกลยุทธ์การซื้อขายทางเทคนิค โดยพื้นฐานแล้ว กลยุทธ์เหล่านี้เป็นแทคติกการซื้อขายระยะสั้น คุณต้องรู้อย่างแม่นยำว่าจะเข้าและออกจากตลาดเมื่อใด มีสองปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายทางเทคนิคซึ่งได้แก่ ทิศทางของสินทรัพย์อ้างอิงและความผันผวน
บทความนี้จะเจาะลึกถึงวิธีที่คุณสามารถซื้อขาย Leveraged Token ในตลาดที่มีแนวโน้มเพื่อเพิ่มโอกาสการชนะของคุณในทุกๆ การเทรด พบกับ 3 เคล็ดลับสำคัญที่คุณควรพิจารณา
เคล็ดลับข้อที่ 1 – รู้จัก Leveraged Token ของคุณ
ก่อนอื่น จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณได้ทำการค้นคว้าข้อมูลด้วยตัวเอง และทำความเข้าใจเกี่ยวกับคริปโตซึ่งเป็นสินทรัพย์อ้างอิงที่ประกอบขึ้นเป็น Leveraged Token นั้น ปัจจัยต่างๆ เช่น ความผันผวน อาจส่งผลต่อผลการดำเนินงานของ Leveraged Token ดังนั้น คุณต้องทราบว่า Leveraged Token มีประวัติผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร สินทรัพย์คริปโตบางรายการมีความผันผวนอย่างมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ และการเพิกเฉยต่อผลกระทบจากความผันผวนก็สามารถส่งผลให้คุณเสียเงินทุนในการซื้อขายได้
ที่มา: Tradingview
ตัวอย่างเช่น ความผันผวนในอดีตของ Bitcoin คือ 71
ที่มา: Tradingview
ในทางกลับกัน ความผันผวนในอดีตของ EOS อยู่ที่ 41 เท่านั้น
ดังที่แสดงให้เห็น ราคาของ EOS ได้แสดงถึงกิจกรรมราคาในลักษณะการกลับตัวในกรอบราคา (Range-Bound) ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนี้ BTC ดำเนินไปแบบพาราโบลาและมีความผันผวนสูงกว่า EOS หากคุณซื้อขายโทเค็น BTC และโทเค็น EOS ด้วยกลยุทธ์การซื้อขายเดียวกัน กรณีนี้จะส่งผลเสียต่อเงินทุนในการซื้อขายของคุณ ดังนั้น คุณควรประเมินความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิงทีละรายการ และระบุโทเค็นที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ
การทำความเข้าใจกับความผันผวนไม่เพียงแต่เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกโทเค็นที่เหมาะสมสำหรับกลยุทธ์ของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้อีกด้วย Leveraged Token มีความอ่อนไหวต่อการเสื่อมจากความผันผวน (Volatility Decay) ซึ่งทำให้มูลค่าการลงทุนของคุณลดลงระหว่างที่ตลาดผันผวนและกลับตัวในกรอบราคา ด้วยเหตุนี้ คุณจึงต้องเข้าใจสภาวะตลาดที่เป็นอยู่และความผันผวนในอดีตของ Leveraged Token นั้นๆ โดยเฉพาะ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม:
อ่าน: 4 ข้อผิดพลาดที่พบในการซื้อขาย Leveraged Token และวิธีหลีกเลี่ยง
ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าต้องให้ความสำคัญกับแง่มุมใดของ Leveraged Token คุณควรตรวจสอบความผันผวนในอดีตของโทเค็นต่างๆ และเลือกโทเค็นที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
ตรวจสอบรายชื่อ Leveraged Token ทั้งหมดของ Binance ได้ที่นี่
เคล็ดลับข้อที่ 2 – การซื้อขายแบบ Breakout ด้วย Leveraged Token
วิธีที่ทำกำไรได้มากที่สุดวิธีหนึ่งจากแนวโน้มระยะสั้นคือการใช้กลยุทธ์ Breakout ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น Leveraged Token จะทำงานได้ดีในตลาดที่มีแนวโน้มขึ้นลงของราคา (Trending Market) ดังนั้น เราจึงต้องการกำหนดเวลาการเข้าสู่ตลาดอย่างรอบคอบเมื่อสภาวะตลาดเหมาะสม การเคลื่อนไหวของตลาดที่เหมาะสมนี้เกิดขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวนอกช่วงราคาที่กำหนด ลองมาศึกษากันว่าคุณจะสามารถนำเอากลยุทธ์ Breakout ไปใช้กับ Leveraged Token ได้อย่างไร
กลยุทธ์ Breakout ที่ใช้กันทั่วไปจะใช้ตัวชี้วัด Bollinger Bands เพื่อวัดการขยายตัวของความผันผวนของราคา Bollinger Bands ประกอบด้วยสามแถบซึ่งอยู่รอบๆ Simple Moving Average (SMA) โดยมีค่าเริ่มต้นเป็น 21 ซึ่ง 85% ราคาจะอยู่ในกรอบเริ่มต้นต่อไปนี้
-
แถบล่าง – SMA (ลบสองค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน)
-
แถบบน – SMA (บวกสองค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน)
ในตลาดที่ผันผวน แถบ Bollinger จะกว้างขึ้น ในทางกลับกัน ในตลาดที่มีความผันผวนน้อยแถบจะแคบลง กลยุทธ์ Breakout โดยอาศัยแถบ Bollinger สามารถใช้เพื่อซื้อขาย Leveraged Token ในแนวโน้มระยะสั้นได้ เมื่อราคาเคลื่อนไหวเหนือ Bollinger แถบบน กรณีนี้ส่งสัญญาณว่าราคาได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ในทางกลับกัน เมื่อราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าแถบล่าง แรงขายจะมีอิทธิพลมากกว่า
ตัวอย่างเช่น เมื่อราคาของ Leveraged Token สูงขึ้นไปเหนือแถบบน ควรถือว่าเป็น Up-Side Breakout ที่ถูกต้อง ในกรณีนี้ คุณสามารถซื้อโทเค็น 'UP' เพื่อใช้ประโยชน์จากโมเมนตัมขาขึ้น การดำเนินการนี้ช่วยให้คุณสร้างผลกำไรจากเลเวอเรจเมื่อสินทรัพย์คริปโตอ้างอิงเพิ่มขึ้น
ที่มา: Binance
ในแผนภูมิ 4 ชั่วโมงของ BTCUP ที่แสดงด้านบน คุณจะเห็นว่ากลยุทธ์นี้สามารถทำกำไรได้ในตลาดที่มีแนวโน้ม
แน่นอนว่าพารามิเตอร์ของกลยุทธ์ที่ใช้แถบ Bollinger นี้ขึ้นอยู่กับระดับความกล้าเสี่ยง (aggressiveness) ของคุณเอง สำหรับนักเทรดแบบอนุรักษ์นิยม คุณสามารถขยายพารามิเตอร์เพื่อกรองสัญญาณความน่าจะเป็นต่ำออกไปได้
การเพิ่มขึ้นล่าสุดของ Bitcoin นั้นทำให้ BTC Leveraged Token ได้รับความนิยมอย่างมากขณะที่นักเทรดต่างเข้ามาพยายามมีส่วนในตลาด
เคล็ดลับข้อที่ 3 – การซื้อขายแบบแนวโน้ม (Trend Trading) ด้วย Leveraged Token
มีคำกล่าวที่ว่าแนวโน้มคือเพื่อนของคุณ ตลาดที่มีแนวโน้มขึ้นหรือลงอย่างต่อเนื่องเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับ Leveraged Token ในตลาดขาลง โทเค็น DOWN ที่มุ่งหวังผลการดำเนินงานแบบกลับทิศทางหรือแบบ Short มีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดี ในทางตรงกันข้าม โทเค็น UP ควรทำผลงานได้ดีในตลาดกระทิงหรือขาขึ้น
ดังที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ คุณควรเลือก Leveraged Token ที่มีแนวโน้มและมีความผันผวน เนื่องจาก Leveraged Token ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการซื้อขายระยะสั้น และเพื่อให้ระบุแนวโน้มระยะสั้นได้ดีขึ้น นักเทรดส่วนใหญ่อาศัยตัวชี้วัด Triple Exponential Moving Average (TEMA) เป็นเครื่องมือ
ที่มา: Binance
คุณคงเดาได้ว่าสัญญาณพื้นฐานของตัวชี้วัด TEMA นั้นเหมือนกับ Moving Average อื่นๆ ซึ่งได้แก่การครอสโอเวอร์ของราคา เมื่อราคาข้ามเหนือ Exponential Moving Average ทั้งสาม เราจะได้รับสัญญาณเข้าหรือออกตามทิศทางที่เกี่ยวข้อง
แผนภูมิด้านบนแสดงแนวโน้มที่ชัดเจนของ ETHUP ขณะที่ราคาข้ามเหนือตัวชี้วัด TEMA จาก 20 เป็น 22 ดอลลาร์ TEMA ที่เพิ่มขึ้นชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มกำลังมาแรง ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณควรมองหาโอกาสที่จะเทรด Leveraged Token แบบ Long หรือเพิ่ม Exposure ของคุณ
ที่มา: Binance
คุณสามารถผสมผสานตัวชี้วัด TEMA เข้ากับตัวชี้วัดด้านปริมาณได้ เช่น On-Balance-Volume (OBV) เมื่อทั้งตัวชี้วัด TEMA และ OBV เพิ่มขึ้น กรณีนี้จะบอกคุณว่าโมเมนตัมของราคานั้นแข็งแกร่งมาก เมื่อตัวบ่งชี้ทั้งสองมาบรรจบกัน คุณจะเห็นการซื้อขายแบบ High Probability
เคล็ดลับเพิ่มเติมเมื่อซื้อขาย Leveraged Token
อย่าซื้อขายในหลายตลาดเกินไป
สินทรัพย์คริปโตอ้างอิงใน Leveraged Token มักจะมีความสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทั้งตลาดมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องดีที่มีทางเลือกมากมาย แต่การซื้อขายในตลาดมากเกินไปในเวลาเดียวกันอาจทำให้เสียสมาธิและมักนำไปสู่การขาดทุน
Leveraged Token ไม่ใช่การลงทุนแบบซื้อแล้วถือไว้
หากคุณซื้อ Leveraged Token เป็นการลงทุนระยะยาว นั่นแสดงว่าคุณกำลังใช้เครื่องมือในทางที่ผิด และเปรียบได้กับการใช้ไขควงเพื่อทำหน้าที่ของค้อน
การลงทุนใน Leveraged Token ในระยะยาวอาจฟังดูดีในทางทฤษฎี อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติการทำเช่นนั้นมีความเสี่ยงที่สำคัญ Leveraged Token แบบเดิมจะได้รับการปรับสมดุลใหม่และ Re-Leveraged ทุกวัน และนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สังเกตเห็นผลกระทบนี้ ด้วยเหตุนี้ ประสิทธิภาพในระยะยาวของ Leveraged Token จึงไม่สามารถคาดเดาได้เนื่องการ Compounding ส่งผลกระทบที่แตกต่างออกไป
Binance Leveraged Token (BLVT) จะได้รับการปรับสมดุลในตลาดที่มีความผันผวนสูงมากเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาวะตลาดปกติ BLVT จะปรับสมดุลใหม่น้อยกว่า Leveraged Token อื่นๆ
แม้ BLVT จะมีข้อดีในจุดนี้ แต่เราก็ไม่สนับสนุนให้ผู้ใช้ถือโทเค็นในระยะยาวเนื่องจากความผันผวนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของโทเค็น
บทสรุป
Leveraged Token เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดที่พึ่งพากลยุทธ์การซื้อขายทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวเพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในระยะสั้นของตลาด
Leveraged Token ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่หัวอกหัวใจไม่แข็งพอ นักเทรดที่สามารถรับมือกับความผันผวนได้สามารถสร้างกำไร (หรือขาดทุน) จำนวนมากจาก Position ของตนได้อย่างรวดเร็ว การรวมเอาเคล็ดลับเกี่ยวกับการใช้ Breakout และระบบ Trend Trading ทำให้คุณสามารถซื้อขาย Leveraged Token ให้มีกำไรได้
อย่างไรก็ดี เมื่อทำการซื้อขายตราสารเหล่านี้ อย่าลืมตรวจสอบสินทรัพย์อ้างอิงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คุณสามารถรู้ทิศทางของโทเค็นในแต่ละวันที่ทำการซื้อขาย
นักเทรดที่เดิมพันกับโทเค็นเหล่านี้ควรมีกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่เพียงพอ และพร้อมที่จะปิด Position ของตัวเองเมื่อสิ้นสุดการซื้อขายในแต่ละวัน
คำเตือน: Binance ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนส่วนบุคคล เป้าหมายการลงทุนที่เฉพาะเจาะจง ความต้องการเฉพาะ หรือสถานการณ์ทางการเงินของคุณ รวมทั้งไม่รับรองและไม่รับผิดต่อความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ไว้ที่นี่ ข้อมูลและการตีพิมพ์ต่างๆ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นและไม่ได้เป็นคำแนะนำทางการเงิน คำแนะนำการลงทุน คำแนะนำในการซื้อขาย หรือคำแนะนำอื่นใดที่เสนอหรือรับรองโดย Binance นอกจากนี้ Binance ไม่รับประกันว่าข้อมูลและสิ่งพิมพ์ดังกล่าวจะถูกต้อง ทันเหตุการณ์ หรือใช้ได้กับสถานการณ์ของกรณีใดๆ โดยเฉพาะ
แหล่งที่มา/ต้นฉบับ :
แสดงความคิดเห็น