การวิเคราะห์กราฟเทคนิคง่ายๆในการซื้อบิทคอยน์
เชื่อได้ว่าใครที่เทรดคริปโตย่อมที่อยากจะ ซื้อบิทคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัลต่างๆในราคาที่ดีที่สุดและขายในราคาที่ดีที่สุด ซึ่งเครื่องมือทางเทคนิคอย่างเช่นกราฟอาจจะไม่ถึงขั้นซื้อในราคาดีที่สุดแต่อย่างน้อยก็พอที่จะนำมาใช้วิเคราะห์ราคาได้เป็นอย่างดี
บทความนี้จะช่วยให้ความรู้ทางด้านกราฟเทคนิคขั้นต้นเพื่อให้นักเทรดสามารถนำไปใช้ในการ ซื้อ บิทคอยน์ ให้ได้ในราคาเหมาะสม
ซื้อในขณะที่ราคาเป็นแนวโน้มขาขึ้นและย่อตัว
แนวโน้มของราคาจะแบ่งออกเป็นสามรูปแบบคือขาขึ้น ขาลงและออกข้างหรือไซด์เวย์ การซื้อในขณะที่เป็นขาขึ้นจะช่วยให้เรามีโอกาสที่จะทำกำไรได้ในอนาคต แต่หากซื้อในช่วงที่ราคาออกด้านข้างหรือขาลงอาจทำให้เกิดผลขาดทุนได้
วิธีการอ่านแนวโน้มว่าราคากำลังเป็นขาขึ้นหรือไม่สามารถดูได้จากการที่ราคามีการยกตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องและในขณะที่ราคามีการย่อตัวลงมาจะไม่ลงไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิม รูปแบบดังกล่าวจะเรียกว่า Higher High ตามทฤษฎี Dow
ตัวอย่างเช่น ราคาบิทคอยน์ลงมาแตะระดับ 40,000 ดอลลาร์ จากนั้นปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 45,000 ดอลลาร์ และย่อตัวลงมาอีกครั้งที่ระดับ 43,000 ดอลลาร์ จากนั้นปรับตัวขึ้นผ่าน 45,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ จะเห็นได้ว่าการย่อตัวลงมาและสามารถฟื้นตัวขึ้นต่อไปได้ บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง
โดยนักเทรดสามารถเข้าซื้อในช่วงที่ราคาย่อตัวลงมาเพื่อขายทำกำไรเมื่อราคามีการฟื้นตัวได้ก็จะสามารถทำกำไรได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ใช้เครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ
ในการวิเคราะห์กราฟราคา นักเทรดส่วนมากจะเลือกใช้ Indicator หรือเครื่องมือต่างๆในการตัดสินใจเข้าซื้อขายซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือให้เลือกใช้นับร้อยชนิด แต่เครื่องมือที่นิยมใช้มากที่สุดอย่างเช่น MACD,RSI,EMA เป็นต้น
เครื่องมือทางเทคนิคแม้จะมีอยู่มากมายแต่นักเทรดต้องเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับตัวเองตลอดจนสไตล์การเทรด เพราะหากใช้เครื่องมือมากเกินไปอาจจะเกิดความสับสนได้และแต่ละเครื่องมือมีวิธีการนำไปใช้ที่ต่างกัน จึงเป็นหน้าที่ของนักเทรดที่ต้องศึกษาหาความรู้
โดยภายในแพลตฟอร์มของ Binance จะมีเครื่องมือทางเทคนิคให้นักเทรดได้เลือกใช้งานอย่างครบครันรวมถึงกราฟราคาที่มาจาก Tradingview ซึ่งเป็นเวบไซต์ที่ให้บริการกราฟเทคนิคระดับโลกซึ่งครอบคลุมกราฟราคาของเหรีญสกุลเงินดิจิทัลนับร้อยเหรียญซึ่งครอบคลุมสำหรับนักเทรดทุกระดับ
ใช้กราฟแท่งเทียน เส้นเทรนด์ไลน์ และ Price Pattern
กราฟแท่งเทียน (Candle Stick) ถือเป็นเครื่องมือการลงทุนที่มีอายุมากกว่าร้อยปีและสามารถใช้งานได้อย่างแม่นยำโดยสามารถนำมาใช้คาดการณ์แนวโน้มราคาได้ ขณะที่ Price Pattern หรือรูปทรงของราคาสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาได้โดยยึดหลักการของสถิติเก่าที่เกิดขึ้นในอดีต
นอกจากนี้ยังมีเส้นเทรนด์ไลน์ (Trend Line) ที่สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาได้เช่นกัน ทั้งสามเครื่องมือนี้ต้องอาศัยทักษะการฝึกฝนจนชำนาญถึงจะสามารถนำมาใช้วิเคราะห์ราคาได้อย่างแม่นยำ
เลือกใช้ไทม์เฟรมให้เหมาะสมกับตัวเอง
กรอบเวลาในการเทรดหรือไทม์เฟรม (Timeframe) เป็นตัวกำหนดสไตล์การเทรดของเราว่าเป็นนักเทรดระยะสั้นหรือระยะยาว เพราะหากเลือกไทม์เฟรมที่สั้นเช่นรายนาที รายชั่วโมง จะมีระดับความผันผวนของราคาที่สูงจึงเหมาะกับผู้ที่มีเวลาในการเฝ้าหน้าจอหรือเป็นนักเทรดเต็มเวลาเท่านั้น ข้อดีคือมีโอกาสที่จะทำกำไรได้ตลอดเวลาแต่หากไม่มีความชำนาญพออาจทำให้ประสบผลขาดทุนได้
ส่วนไทม์เฟรมที่ยาวขึ้นเช่นระดับ Day หรือ Week ข้อเสียคืออาจจะช้าสำหรับผู้ที่ต้องการจะเล่นเร็วแต่ยิ่งไทม์เฟรมมีระยะเวลาที่กว้างมากเท่าไร ความผันผวนจะน้อยลงและมีความแม่นยำมากขึ้นซึ่งเหมาะสมกับนักเทรดที่สามารถรอได้และต้องการความแน่นอน
เครื่องมือทั้งหมดนี้ภายในแพลตฟอร์มของ Binance มีให้เลือกใช้อย่างครบถ้วนโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมือจากภายนอกอีกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเทรดอย่างเต็มที่
ทั้งนี้เครื่องมือทางเทคนิคเป็นเพียงแค่การคาดการณ์และนำมาใช้ในการวางแผนการเทรดเท่านั้นไม่สามารถจะการันตีได้ 100% ว่าจะถูกต้องแม่นยำทั้งหมด จึงต้องมีการป้องกันความเสี่ยงทุกครั้งที่ทำการเทรด
แหล่งที่มา/ต้นฉบับ :
แสดงความคิดเห็น