เก็บบิทคอยน์ยังไงให้ปลอดภัย
news-174.png
ADMIN May 01, 2021 626

เก็บบิทคอยน์ยังไงให้ปลอดภัย

ปัจจุบันได้มีแพลตฟอร์มซื้อขายบิทคอยน์เปิดตัวกันอย่างมากมาย แต่คำถามสำคัญก็คือจะ ซื้อ บิทคอยน์ ยังไง ให้ปลอดภัยจากการถูกโจรกรรมทางออนไลน์จากผู้ไม่หวังดีเพราะเราจะได้ยินข่าวไม่ค่อยดีเรื่องนี้กันอยู่บ่อยครั้ง เช่น ถูกแฮ็คจนเงินหายไปจนหมด เราลองมาดูวิธีการซื้อและจัดเก็บบิทคอยน์ให้มีความปลอดภัยกันว่ามีวิธีใดบ้าง

Hardware Wallet

กระเป๋าเงินอีเล็กทรอนิกส์แบบฮาร์ดแวร์ (Hardware Wallet) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า Cold Wallet ถือเป็นวิธีการเก็บบิทคอยน์ที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด โดยสามารถใช้ Hardware Wallet จัดเก็บบัญชีสาธารณะ (Public Address) และกุญแจส่วนตัว (Private Keys) แบบออฟไลน์ ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เนต จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากการถูกแฮ็คอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หากทำ Hardware Wallet หาย บิทคอยน์หรือเหรียญสกุลเงินดิจิทัลที่เรามีก็จะหายไปเช่นกัน จึงต้องทำการเก็บรักษาเป็นอย่างดี

 

Paper Wallet

หรือจะเรียกว่ากระเป๋าเงินแบบกระดาษ คือการพิมพ์รายละเอียด Public Address และ Private Keys ในรูปแบบรหัสคิวอาร์โค้ดและนำไปสแกนเมื่อต้องการทำธุรกรรม การเก็บข้อมูลแบบนี้ นอกจากจะเป็นการเก็บข้อมูลแบบออฟไลน์ไม่ต้องกังวลถึงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นหากกระเป๋าเงินฮาดแวร์สูญหายอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้กระเป๋าเงินแบบกระดาษจะช่วยลดความเสี่ยงอันเกิดจากการโจรกรรมและถูกไวรัสโจมตีแต่หากทำสูญหายก็จะไม่มีโอกาสได้บิทคอยน์ที่เป็นเจ้าของกลับคืนมาเช่นกันเพราะฉะนั้นต้องหาที่เก็บรักษาเป็นอย่างดี

เปิดระบบการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (2FA) 

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่นักเทรดบิทคอยน์จะต้องรู้จักก็คือการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนหรือ 2FA โดยใช้แอปพลิเคชั่นที่เรียกว่า Google Authenticator ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในระบบการยืนยันตัวตนที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้มือใหม่โดยสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบไอโอเอสและแอนดรอยด

การทำงานของ 2FA ระบบจะผลิตรหัสสำหรับการใช้งานครั้งเดียว เพื่อให้ล๊อกอินเข้าสู่บัญชีแพลตฟอร์มซื้อขายบิทคอยน์ของผู้ใช้งาน แม้จะใช้เวลามากขึ้นสองสามนาทีในการล๊อกอิน แต่ก็คือเป็นสองสามนาทีที่แลกมากับการเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของเราเอง

สำหรับผู้ใช้งาน Binance ทางแพลตฟอร์มได้มีการติดตั้งระบบ 2FA ให้ลูกค้าทำการยืนยันตัวเองทุกครั้งที่ทำการล๊อกอินเข้าสู่ระบบ ตลอดจนการเปิด Anti-phishing Code ซึ่งเอาไว้แจ้งเตือนว่าการล็อกอินของเรานั้นมาจากผู้ไม่ประสงค์ดีหรือเปล่า รวมถึงการเปิด withdrawal whitelist ก็คือให้ระบบจดจำ Address ที่สามารถถอนได้ เพื่อป้องกันการแอบเข้ามาถอนบิทคอยน์ที่ลูกค้าเก็บไว้บนเวบออกไป

เก็บบิทคอยน์ไว้กับ Binance มั่นใจได้ในความปลอดภัย

Binance ถือเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายบิทคอยน์ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ISO/IEC 27001และ e CryptoCurrency Security Standard (CCSS) ซึ่งเป็นมาตราฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด จะเห็นได้ว่าไม่เคยมีข่าวการถูกโจรกรรมบิทคอยน์ออกจากบัญชีของ Binance มาก่อน

นอกจากนี้ Binance ยังได้มีการจัดตั้งกองทุน Secure Asset Fund for Users ซึ่งเป็นกองทุนที่ถูกจัดเก็บแยกออกจากบัญชี Hot Wallet ไปอยู่บน Cold Wallet ที่มีความปลอดภัยสูง โดยใช้เงินทุนจัดตั้งมาจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่เกิดขึ้นบน Binance ซึ่งหากเงินของลูกค้าถูกแฮ็คหรือขโมยไปจากผู้ไม่หวังดี เงินกองทุนดังกล่าวนี้จะเข้ามาช่วยชดเชยความเสียหายให้กับลูกค้า

Binance ยังได้ริเริ่มจัดตั้ง CryptoSafe Alliance (CSA) ซึ่งเป็นการรวมตัวพันธมิตรอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น Exchange,Protocol Blockchain ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และบริษัท Compliance เพื่อทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินของผู้ใช้งานทุกคนจากผู้ไม่หวังดี

 

โดยเทคโนโลยีที่นำมาใช้ก็คือ แพลตฟอร์ม CryptoSafe ซึ่งพัฒนาโดย Oasis Labs มีระบบการตรวจจับความผิดปกติที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชนแบบเรียลไทม์และยังใช้อัลกอริธึมในการตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัยซึ่งอาจเข้าข่ายการฉ้อโกงและโจรกรรมบิทคอยน์และยังมีการบันทึกจัดเก็บการทำธุรกรรมต่างๆไว้เพื่อตรวจสอบย้อนหลัง

เรียกได้ว่านอกจากบริการหน้าบ้านที่ดีแล้ว Binance ยังให้ความสำคัญกับระบบหลังบ้านที่ดีอีกด้วยเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าทุกคน

จากบทความนี้เราน่าจะรู้แล้วว่าจะ ซื้อ บิทคอยน์ ยังไง ให้มีความปลอดภัยจากผู้ไม่หวังดี ขอให้นักเทรดทุกคนมีความระมัดระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลาที่ทำธุรกรรม ติดตั้งฟีเจอร์ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินของเรา ที่สำคัญคือเลือกแพลตฟอร์มซื้อขายบิทคอยน์ที่มีมาตราฐานความปลอดภัยในระดับสูง

 

แหล่งที่มา/ต้นฉบับ :

แสดงความคิดเห็น

กดแชร์ตรงนี้